7 รูปแบบสูตรเกม์บาคาร่าออนไลน์ที่ใครหลายคนไม่เคยรู้
สูตรบาคาร่าที่แม่นที่สุดฟรี ในการเล่นเกมส์บาคาร่าออนไลน์นั้น ความไวในการวางเดิมพันมีความสำคัญยิ่งกว่าการคำนวนตามหลักคณิตศาสตร์มาอย่างดี เพราะหน้างานเกมส์บาคาร่าจริงนั้น เวลาที่มีให้ไม่ค่อยเพียงพอต่อการคำนวนผลหน้าไพ่แล้ววางเดิมพันได้ทันเวลา จึงต้องมีการใช้สูตรการเล่นเกมส์บาคาร่าเพื่อให้การเดิมพันนั้นเกิดขึ้นได้เร็วทันเวลยิ่งขึ้น ก็เหมือนกับการเข้าห้องสอบที่คุณครูจับเวลา หากเรามีสูตรเข้าไปทำข้อสอบ ก็จะทำให้เราทำข้อสอบได้เสร็จทันหรือก่อนเวลา แต่ถ้าเราไม่รู้สูตรแล้วใช้เวลาที่นานเกินไป ก็อาจจะทำให้เราส่งข้อสอบไม่ทัน หรือพลาดข้อที่ยังไม่ได้ทำไปเฉย ๆ เหมือนกับในเกมส์บาคาร่าออนไลน์ ที่คาสิโนไม่ได้มีการหยุดรอการเดิมพันของเราคนเดียว แต่ดำเนินการไปเพื่อส่วนรวม มีการจับเวลาให้นักบาคาร่าออยไลน์ทั่วประเทศได้วางเดิมพันพร้อม ๆ กันในระยะเวลาเท่ากัน
ในการเลือห้องบาคาร่าออนไลน์ที่ดีควรสังเกตการเกิดหน้าไพ่เหล่านี้บนกระดานแสดงผลสถิติให้ดี ซึ่งไม่ควรมีสูตรไพ่มากกว่า 3 สูตร หรือการเกิดอนุกรมผลไพ่บาคาร่ามากกว่า 3 ลักษณะ เพราะจะเป็นการยากต่อการคาดเดาผลไพ่บาคาร่าออนไลน์ในห้องบาคาร่านั้นในอนาคต และยังดูเหมือนเป็นการล็อคผลมากกว่าการบังเอิญในเกิดผลแพ้ – ชนะ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่น หมดสนุกไปกับการแทงบาคาร่าออนไลน์ตามเท่าที่ควรจะเป็น
1. สูตรไพ่ปิงปอง
เป็นผลไพ่บาคาร่าที่ออกผลสลับแพ้ – ชนะ ระหว่าง แดง หรือเจ้ามือ (Banker) กับ น้ำเงิน หรือผู้เล่น (Player) เหมือนกับการตีปิงปองที่จะต้องตีลูกปิงปองออกจากแดนของตัวกลับไปกลับมาของผู้เล่น 2 ฝั่ง เทคนิคการสังเกตการเกินไพ่ปิงปอง คือ จะมีการแพ้ชนะสลับกันอยู่ที่ 3 – 4 ตา เช่น แดง – น้ำเงิน – แดง – น้ำเงิน ดังนั้น ในตาต่อไปตาสูตรคือต้องออก แดง ต่อจากเกมส์นี้อย่างแน่นอน และจะออกสลับกันแบบนี้ไปจนกว่าผลไพ่บาคาร่าจะเปลี่ยนไปเป็นการเสมอ หรือชนะซ้ำ จึงสามารถเลิกแทงสลับตามสูตรได้
2. สูตรไพ่ลูกคู่
เป็นการออกผลไพ่ที่มีความคล้ายกับปิงปอง คือ การออกผลแพ้ – ชนะ แบบสลับ แต่จะออกไพ่แบบเบิ้ลชนะ 2 ครั้ง แล้วเปลี่ยนมาเป็นอีกฝ่ายชนะ 2 ครั้งสลับกันไป ๆ มา ๆ ยกตัวอย่างเช่น แดง – แดง -น้ำเงิน – น้ำเงิน – แดง – แดง – น้ำเงิน – น้ำเงิน ถ้าออกผลแบบนี้ ในเกมส์ต่อไปให้นักบาคาร่าออนไลน์แทงเดิมพันฝั่งแดงต่อกี 2 ตา และน้ำเงินต่อกี 2 ตาได้เลยตามหลักคณิตศาสตร์ ซึ่งจริง ๆ เราอาจจะเสี่ยงแทงไพ่ลูกคู่ตั้งแต่ตาที่ 5 เพื่อยั่งเชิงก่อนก็ได้จะได้เข้าถึงกำไรได้เร็วยิ่งขึ้น
3. สูตรไพ่สองตัวตัด
เป็นสูตรไพ่บาคาร่าที่จะมีความคล้ายกับไพ่ลูกคู่ คือ ออกชนะเบิ้ลของฝั่งหนึ่ง แต่จะมีการตัดด้วยชนะ 1 ครั้งของฝั่งตรงข้าม และตามด้วยการชนะของฝั่งเดิมต่ออีก 2 ครั้ง จึงเรียกว่าไพ่ 2 ตัวตัด เพราะมี 1 ตัวมาตัดการชนะต่อเนื่องของอีกฝั่ง คาสิโน ยกตัวอย่างเช่น การชนะของเจ้ามือ 2 ครั้ง ตัดด้วย ผู้เล่น ดังนี้ แดง – แดง – น้ำเงิน – แดง – แดง ตาถัดไปก็ให้แทง น้ำเงิน เพราะมักจะมาเป็นตัวตัดตามสูตรไพ่สองตัวตัดอย่างแน่นอน
4. สูตรไพ่สามตัวตัด
เป็นการออกผลไพ่บาคาร่าที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ 3 ครั้งติดแล้วจะเปลี่ยนไพ่ในตาที่ 4 เหมือนกับการเดาผลไพ่ในสูตรสองตัวตัด แต่มีเบิ้ลตัวชนะเป็น 3 ครั้งก่อนตัดด้วยฝั่งตรงข้าม ลักษณะการออกไพ่แบบนี้ ต้องเป็นตาที่ 5 ถึงจะคาดเดาเกมส์ได้อย่างแม่นยำว่ากำลังเข้าสูตรแล้วจริง ๆ ดังนั้นอาจจะลองเสี่ยงดวงดูสั้น ๆ ที่ 3 ตาติด เช่น เจ้ามือชนะที่ 3 แล้วตัดด้วยผู้เล่น คือ แดง – แดง – แดง ตาถัดไปให้เลือกแทง น้ำเงิน แต่ไพ่ 3 ตัวติดนี้ มีความไม่แน่นอนได้สูง เพราะตาที่ 4 ไม่อาจการันตีได้ว่าจะเป็นตัวตัดก็ได้ การจะกำลังเข้าสู่ไพ่มังกรก็เป็นได้
5. สูตรไพ่มังกร
ไพ่มังกรเป็นนาทีทองที่สุดของชาวบาคาร่าออนไลน์และทีมคาสิโน และเหตุผลที่เรียกว่าไพ่มังกร เพราะมีลักษณะการชนะของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยาวติดต่อกันหลาย ๆ ตา อย่างน้อย 5 ตาขึ้นไป และเป็นรูปแบบสูตรไพ่ที่สังเกตได้ง่ายที่สุด เพราะจะออกติดกันซ้ำ ๆ อย่างน้อย 4 – 5 ครั้ง ให้เราเลือกแทงบาคาร่าฝั่งที่กำลังชนะนั้นไปเรื่อย ๆ จนกว่าผลไพ่จะเปลี่ยนจึงถือว่าหลุดสูตรไพ่มังกร
6. สูตรไพ่ตัวติด
จะออกคล้ายกับสูตรไพ่มังกรแต่จะออกไพ่ในลักษณะการชนะติดต่อกันของสองฝ่ายในปริมาณเท่า ๆ กัน คือเมื่อหลุดไพ่มังกรที่เป็นการชนะของฝั่งเดียวติด ๆ กันจบลงให้ย้ายฝั่งมาแทงบาคาร่าฝั่งตรงข้ามติดต่อกันได้เลย เพราะมักจะเกิดไพ่แบบไพ่มังกรกับฝั่งตรงข้ามด้วยเช่นกัน แบบติดกัน จึงเรียกว่าสูตรไพ่ตัวติด
7. สูตรไพ่ตัวหลุด
เป็นสูตรไพ่ที่ไม่นิยมมากนักเพราะมองเกมส์ค่อนข้างยาก จะต้องสังเกตุ บาคาร่า ออนไลน์ ว่าเมื่อมีการออก น้ำเงินหรือแดง จะออกแค่ 1 ครั้งแล้วเปลี่ยนผลชนะของไพ่ไปอีกฝั่ง ยกตัวอย่างเช่น เริ่มการชนะที่เจ้ามือ คือ แดงแดง – น้ำเงิน – แดงแดงแดง – น้ำเงิน ตาต่อไปให้แทง แดง ต่ออีก 4 เกมส์ และจะมีน้ำเงินมาเป็นตัวหลุดของหน้าไพ่ต่อไปนั่นเอง